IC Markets ดีไหม รีวิวข้อดีข้อเสีย อย่างละเอียด 2024

Contents

IC Markets ดีไหม

ผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงในวงการ Forex ระดับโลก IC Markets ดีไหม? ด้วยการเติบโตของตลาด Forex ในประเทศไทยที่ก้าวกระโดด ทำให้ผู้ให้บริการจากต่างประเทศรายใหญ่เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้น

ซึ่งนั่นรวมไปถึง IC Markets ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการเงินและเทคโนโลยี พร้อมทั้งการจดทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมาย เข้ามาให้บริการคนไทยอีกด้วย วันนี้เราจะมารีวิวความน่าสนใจของโบรกเกอร์รายนี้ โดยจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

“ความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขายคือหัวใจสำคัญของการเทรด Forex”

IC Markets คืออะไร?

IC Markets หรือ International Capital Markets Pty Ltd คือ โบรกเกอร์ Forex และ CFD ชั้นนำระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการให้บริการ True ECN (Electronic Communication Network) ซึ่งหมายถึงการส่งคำสั่งซื้อขายเข้าสู่ตลาดโดยตรง ไม่ผ่านตัวกลาง

IC Markets Logo
IC Markets Logo

IC Markets ให้บริการการเทรดในตลาดการเงินหลากหลายประเภท โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการซื้อขายมากถึง 5 กลุ่มสินค้า ได้แก่ Forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น และ คริปโตเคอเรนซี เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ที่เทรดเดอร์ต้องการซื้อขาย มาพร้อมกับเงื่อนไขการเทรดที่ค่อนข้างมีอิสระ เหมาะกับกลยุทธ์เทรดทุกรูปแบบที่คุณต้องการ

จุดเด่นสำคัญของ IC Markets คือ การเป็นโบรกเกอร์ True ECN ที่มี Spread ต่ำมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.1 pips สำหรับคู่เงิน EUR/USD ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ในตลาด นอกจากนี้ยังมีความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็วมาก และมีความเสถียรสูงแม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน

ข้อดี – ข้อเสีย ของโบรกเกอร์ IC Markets

ผู้ให้บริการซื้อขาย Forex หรือ CFD นั้น แต่ละโบรกเกอร์มีข้อดี กับ ข้อเสียที่แตกต่างกันไป โดยเราได้รวบรวมจุดเด่น กับ ข้อเสียเปรียบที่ทำให้เทรดเดอร์ตัดสินใจเกี่ยวกับการไว้ใจในการลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะสามารถแบ่งออกเป็นข้อดี และ ข้อเสียของโบรกเกอร์ IC Markets ได้ดังนี้

ข้อดี โบรกเกอร์ IC Markets

ในส่วนของข้อดีของ IC Markets มีจุดเด่นที่น่าสนใจ พร้อมขอแนะนำด้วยกันหลายประการ โดยจะขอแบ่งออก 8 เป็นข้อย่อยให้เข้าใจง่ายดังนี้

  1. ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์
    • จดทะเบียนและได้รับการกำกับดูแลจาก ASIC (ออสเตรเลีย), FSA (เซเชลส์) และ CySEC (ไซปรัส)
    • มีประวัติการดำเนินงานยาวนานกว่า 15 ปี
    • ได้รับการจัดอันดับให้เป็นโบรกเกอร์ที่ดีที่สุด อันดับ 3 ของ Thai Broker Forex ด้วยคะแนน 91%
  2. เงื่อนไขการเทรดที่เอื้อต่อเทรดเดอร์ทุกท่าน
    • Spread ต่ำมาก เฉลี่ยที่ 0.1 pips สำหรับ EUR/USD
    • เป็น True ECN Broker ส่งคำสั่งซื้อขายเข้าตลาดโดยตรง
    • Leverage สูงสุดถึง 1:500
  3. ระบบการซื้อขายที่รวดเร็วและเสถียร
    • Server มีความเสถียรสูง
    • สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้แม้ในช่วงประกาศข่าวสำคัญ
  4. ผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย
    • มีสินค้าให้เลือกเทรดมากกว่า 1,000 รายการ
    • ครอบคลุม 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์: Forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น และคริปโตเคอเรนซี
  5. แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย
    • รองรับ MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ cTrader
    • มี WebTrader สำหรับเทรดผ่านเบราว์เซอร์
    • แอพพลิเคชั่นมือถือสำหรับ iOS และ Android
  6. โปรแกรม Raw Trader Plus
    • สำหรับนักลงทุนที่มี Volume การเทรดสูง
    • ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น การลดค่าธรรมเนียม
  7. การฝากถอนที่สะดวก
    • รองรับการฝากถอนผ่านธนาคารไทย
    • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน
    • ระยะเวลาในการถอนเงินรวดเร็ว
  8. บริการ VPS ฟรี
    • ให้บริการ VPS ฟรีสำหรับลูกค้าที่มีปริมาณการเทรดตามเงื่อนไข
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ Expert Advisors (EAs)

ข้อเสีย โบรกเกอร์ IC Markets

เห็นข้อดีของโบรกเกอร์กันไปแล้ว ในหัวข้อนี้มาดูข้อเสียเปรียบ หรือ จุดด้อยของผู้ให้บริการรายนี้กันบ้าง ซึ่งได้แบ่งออกเป็นข้อย่อยง่าย ๆ ด้วยกัน 4 ข้อดังนี้

  1. ข้อจำกัดของบริการ VPS ฟรี
    • ต้องรักษายอดการเทรดขั้นต่ำ 15 lots ต่อเดือนเพื่อใช้บริการ VPS ฟรี
    • อาจไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดน้อย
  2. การถอนเงินอาจใช้เวลานาน
    • การถอนเงินอาจใช้เวลา 1-2 วันทำการ
    • อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการถอนเงิน
  3. ไม่มีโบนัสหรือโปรโมชั่นมากนัก
    • IC Markets ไม่เน้นการให้โบนัสหรือโปรโมชั่นเหมือนโบรกเกอร์บางราย
    • อาจไม่ดึงดูดสำหรับผู้ที่ชอบรับโบนัสหรือโปรโมชั่น
  4. การสนับสนุนภาษาไทยยังไม่สมบูรณ์
    • แม้จะมี Live Chat ภาษาไทย แต่ยังไม่ครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง
    • เอกสารและข้อมูลบางส่วนอาจยังไม่มีภาษาไทย
IC Markets ข้อดีข้อเสีย
IC Markets ข้อดีข้อเสีย

ความน่าเชื่อถือของ IC Markets

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นของโบรกเกอร์เลยก็คือ ความน่าเชื่อถือที่พวกเขานั้นมีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กับชื่อ IC Markets อีกทั้งยังมีการกำกับดูแลมากถึง 3 หน่วยงานชั้นนำ โดยพวกเขาได้สร้างคะแนนความน่าเชื่อถือเอาไว้ดังนี้

ปีที่ก่อตั้ง / อายุของการให้บริการด้าน Forex

โบรกเกอร์ IC Markets ก่อตั้งเมื่อปี 2007 พวกเขาเปิดให้บริการมามากกว่า 15 ปี เป็นที่เรียบร้อย และไม่เคยมีข่าวเสียหายร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท

License / คะแนน Trust pilot

ทางด้านใบอนุญาต พร้อมทั้งการกำกับดูแล ที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่ามีหน่วยงานที่กำกับดูแลชั้นนำของโลกถึง 3 หน่วยงาน ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. Australian Securities and Investments Commission (ASIC)
    • ได้รับใบอนุญาตเลขที่ 335692
    • จดทะเบียนในชื่อ International Capital Markets Pty Ltd
    • ASIC เป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
  1. Financial Services Authority (FSA) Seychelles
    • ได้รับใบอนุญาตเลขที่ SD018
    • จดทะเบียนในชื่อ Raw Trading Ltd
    • FSA เป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของประเทศเซเชลส์ ซึ่งมีมาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มงวด
  2. Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC)
    • ได้รับใบอนุญาตเลขที่ 362/18
    • จดทะเบียนในชื่อ IC Markets (EU) Ltd
    • CySEC เป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของประเทศไซปรัส ซึ่งเป็นที่ยอมรับในสหภาพยุโรป

สำหรับใบอนุญาตทั้ง 3 ใบ ทำให้การันตีได้ว่า IC Markets นั้นมีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งการกำกับดูแลในหลายประเทศ ทำให้พวกเขาเป็นโบรกเกอร์ที่มีมาตรฐานระดับสากล

คะแนนจาก Trustpilot

IC Markets Trustpilot
IC Markets Trustpilot

คะแนนของ IC Markets บน Trustpilot อยู่ที่ 4.1 จาก 5 ดาว (ข้อมูล ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2024) ถือว่าได้รับความไว้วางใจจากเทรดเดอร์ในระดับที่ดี โดยมีรีวิวมากกว่า 1,000 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขายและ Spread ที่ต่ำ

Scam และข่าวด้านการโกง / การตุกติก

หลังจากที่ค้นหาข่าวด้านการโกง หรือ การตุกติกของ IC Markets พบว่าไม่มีข่าวเชิงลบที่ร้ายแรงหรือการกล่าวหาเรื่องการโกงลูกค้าแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม มีบางรีวิวที่แสดงความไม่พอใจในเรื่องของ:

  • ความล่าช้าในการถอนเงินในบางกรณี
  • ปัญหาด้านเทคนิคของแพลตฟอร์มการเทรดที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว

ทั้งนี้ ทาง IC Markets มักจะมีการตอบกลับและแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการบริการลูกค้า

ประเภทบัญชี IC Markets

ประเภทบัญชีของโบรกเกอร์นี้จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ซึ่งจะมีความแตกต่างกันเพื่อตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ที่หลากหลาย โดยจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

1. บัญชี Standard

  • Platform: MetaTrader 4 & 5
  • Spread เริ่มต้น: 1.0 pips สำหรับ EUR/USD
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • Leverage สูงสุด 1:500
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $200
  • เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายในการคำนวณต้นทุน

2. บัญชี Raw Spread

  • Platform: MetaTrader 4 & 5
  • Spread เริ่มต้น: 0.0 pips สำหรับ EUR/USD
  • ค่าคอมมิชชั่น $3.5 ต่อล็อต (ซื้อขายรวม)
  • Leverage สูงสุด 1:500
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $200
  • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพหรือผู้ที่เทรดบ่อยและต้องการต้นทุนที่ต่ำที่สุด

3. บัญชี cTrader

  • Platform: cTrader
  • Spread เริ่มต้น: 0.0 pips สำหรับ EUR/USD
  • ค่าคอมมิชชั่น $3.0 ต่อล็อต (ซื้อขายรวม)
  • Leverage สูงสุด 1:500
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $200
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบใช้งานแพลตฟอร์ม cTrader และต้องการ Spread ที่ต่ำมาก

ทั้งสามบัญชีมีจุดเด่นร่วมกันคือ:

  • รองรับการใช้ Expert Advisors (EAs)
  • สามารถทำ Scalping ได้
  • รองรับการทำ Hedging
  • ไม่มีข้อจำกัดในการใช้กลยุทธ์การเทรดต่างๆ
IC Markets ประเภทบัญชี
IC Markets ประเภทบัญชี

ภาพรวมการเทรด ความลื่นไหล กราฟค้าง?

สำหรับการเทรดของโบรกเกอร์ IC Markets นั้น ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก โดยเฉพาะในด้านความเร็วและความเสถียรของระบบ โดยภาพรวมในการเทรดดังนี้

ความลื่นไหลในการเทรด

เรียกได้ว่ามีความลื่นไหลในการเทรดสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบัญชี Raw Spread และ cTrader ที่มีสเปรดต่ำมาก เมื่อทดสอบการซื้อ-ขาย พบว่าคำสั่งรวดเร็วมาก แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

Requotes (รีโควต) บ่อยไหม

ปัญหาเรื่องการรีโควตแทบจะไม่พบในการเทรดกับ IC Markets เนื่องจากเป็น True ECN Broker ที่ส่งคำสั่งซื้อขายเข้าสู่ตลาดโดยตรง แม้ในช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญ การส่งคำสั่งซื้อขายก็ยังทำได้อย่างราบรื่น

กราฟค้างบ่อยไหม / ลากไส้เทียนมากิน stop loss บ่อยไหม

ปัญหาเรื่องกราฟค้างแทบจะไม่พบในการใช้งานปกติ แม้ในช่วงที่มีการประกาศตัวเลขข่าวเศรษฐกิจสำคัญ ระบบของ IC Markets มีความเสถียรสูง ทำให้การแสดงผลกราฟและการส่งคำสั่งซื้อขายทำได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงมาก อาจมีโอกาสที่ราคาจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและทะลุ stop loss ได้

Slippage บ่อยไหม

ปัญหา Slippage พบน้อยมากในการเทรดกับ IC Markets เนื่องจากเป็น True ECN Broker ที่ส่งคำสั่งซื้อขายเข้าสู่ตลาดโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญหรือตลาดมีความผันผวนสูง อาจมีโอกาสเกิด Slippage ได้บ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วอยู่ในระดับที่ต่ำมาก

ระดับ Stop out

การ Stop Out จะเกิดขึ้นเมื่อระดับของมาร์จิ้นต่ำกว่า 50% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับเทรดเดอร์

บัญชีที่แนะนำของ IC Markets

บัญชี Raw Spread

สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพหรือผู้ที่เทรดบ่อย บัญชี Raw Spread ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วย Spread ที่ต่ำมากเริ่มต้นที่ 0.0 pips และค่าคอมมิชชั่นที่คงที่ ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการเทรดได้ดี เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือ Day Trading
  • ผู้ที่เทรดปริมาณมาก
  • ผู้ที่ใช้ Expert Advisors (EAs)

บัญชี Standard

สำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่เทรดไม่บ่อยมากนัก บัญชี Standard อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ด้วยการไม่มีค่าคอมมิชชั่น แม้ว่า Spread จะกว้างกว่าบัญชี Raw Spread เล็กน้อย เหมาะสำหรับ:

  • ผู้เริ่มต้นที่ต้องการความเรียบง่ายในการคำนวณต้นทุน
  • ผู้ที่เทรดไม่บ่อยมากนัก
  • ผู้ที่ไม่ต้องการกังวลเรื่องค่าคอมมิชชั่น

บัญชี cTrader

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบแพลตฟอร์ม cTrader บัญชีนี้เป็นตัวเลือกที่ดี ด้วย Spread ที่ต่ำมากและค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำกว่าบัญชี Raw Spread เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ที่ชอบใช้งานแพลตฟอร์ม cTrader
  • ผู้ที่ต้องการ Spread ที่ต่ำมากและค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้
  • ผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือ Algorithmic Trading

โปรโมชั่นของ IC Markets

IC Markets ไม่เน้นการให้โบนัสหรือโปรโมชั่นมากนัก แต่มีบริการและสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจสำหรับลูกค้า ดังนี้:

  1. บริการ VPS ฟรี
    • ให้บริการVPS ฟรีสำหรับลูกค้าที่มีปริมาณการเทรดขั้นต่ำ 15 lots ต่อเดือน
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ Expert Advisors (EAs) หรือต้องการความเสถียรในการเทรด
    • ช่วยลดปัญหา Latency และเพิ่มความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย
  1. โปรแกรม Raw Trader Plus
    • สำหรับนักลงทุนที่มี Volume การเทรดสูง ตั้งแต่ 100 Lots ขึ้นไปต่อเดือน
    • ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น การลดค่าคอมมิชชั่น, การสนับสนุนลูกค้าแบบพิเศษ
    • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพหรือผู้ที่มีปริมาณการเทรดสูง
  2. โบนัสเงินฝาก 10%
    • สำหรับลูกค้าใหม่ที่ฝากเงินขั้นต่ำ $200
    • โบนัสสูงสุดไม่เกิน $1,000
    • มีเงื่อนไขในการเทรดเพื่อถอนโบนัส
  3. โปรแกรมแนะนำลูกค้า (IB Program)
    • สำหรับผู้ที่ต้องการแนะนำลูกค้าใหม่ให้กับ IC Markets
    • ได้รับค่าคอมมิชชั่นจากปริมาณการเทรดของลูกค้าที่แนะนำ
    • มีเครื่องมือและรายงานสำหรับติดตามผลการแนะนำลูกค้า

แม้ว่า IC Markets จะไม่เน้นการให้โบนัสหรือโปรโมชั่นมากนัก แต่จุดเด่นของพวกเขาอยู่ที่คุณภาพของการให้บริการ, ความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย และ Spread ที่ต่ำมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์มืออาชีพให้ความสำคัญมากกว่าโบนัสหรือโปรโมชั่นชั่วคราว

Platform ที่ใช้งาน

IC Markets รองรับแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ทุกระดับ:

IC Markets แพลตฟอร์ม
IC Markets แพลตฟอร์ม
  1. MetaTrader 4 (MT4)
    • แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้งานง่าย
    • เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
    • รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EAs)
    • มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย
  2. MetaTrader 5 (MT5)
    • รุ่นที่พัฒนาต่อจาก MT4
    • มีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การเทรด Stocks และ Futures
    • รองรับการเขียนโปรแกรม EAs ด้วยภาษา MQL5 ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
  3. cTrader
    • แพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับ ECN Trading โดยเฉพาะ
    • มีอินเตอร์เฟซที่ทันสมัยและใช้งานง่าย
    • รองรับการเทรดแบบ One-Click Trading และ Depth of Market (DOM)
  4. WebTrader
    • เทรดผ่านเว็บบราวเซอร์โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม
    • ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา
    • รองรับทั้ง MT4 และ MT5
  5. Mobile Trading Apps
    • แอพพลิเคชั่นสำหรับ iOS และ Android
    • เทรดได้ทุกที่ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
    • รองรับฟังก์ชั่นการเทรดพื้นฐานทั้งหมด
  6. TradingView
    • แพลตฟอร์มวิเคราะห์และเทรดที่ได้รับความนิยมสูง
    • มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่หลากหลายและทันสมัย
    • สามารถแชร์และดูไอเดียการเทรดจากเทรดเดอร์ทั่วโลก

ทุกแพลตฟอร์มของ IC Markets มีความปลอดภัยสูง ใช้งานง่าย และมีความเสถียร ทำให้เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของตนเองได้

การฝาก-ถอน IC Markets

การฝากและถอนเงินเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ IC Markets มีระบบการฝาก-ถอนที่สะดวกและรวดเร็ว โดยมีรายละเอียดดังนี้:

ความเร็วในการฝาก-ถอน

  • การฝากเงิน: เงินเข้าบัญชีทันทีสำหรับวิธีการฝากส่วนใหญ่ (15-30 นาที)
  • การถอนเงิน: ใช้เวลาประมาณ 1-2 วันทำการ ขึ้นอยู่กับวิธีการถอนและธนาคารปลายทาง
    • หากทำรายการถอนเงินก่อนเวลา 12.00 น. จะได้รับเงินภายในวันเดียวกัน (จันทร์ – ศุกร์)

ค่าบริการ / Rate ฝาก-ถอน

  • การฝากเงิน: ไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากผ่านธนาคารไทยและ e-Wallets ส่วนใหญ่
  • การถอนเงิน: ไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการถอนผ่านธนาคารไทย แต่อาจมีค่าธรรมเนียมสำหรับบางวิธีการถอน เช่น บัตรเครดิตหรือ e-Wallets บางประเภท

วิธีการ ฝาก – ถอน IC Markets

วิธีการฝากเงิน:

  1. Internet Banking ของธนาคารไทย
  2. บัตรเครดิต/เดบิต
  3. Skrill
  4. Neteller
  5. PayPal (บางประเทศ)
  6. โอนเงินระหว่างประเทศ
  7. Bitcoin และ Cryptocurrencies อื่นๆ

วิธีการถอนเงิน:

  1. โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทย
  2. Skrill
  3. Neteller
  4. PayPal (บางประเทศ)
  5. โอนเงินระหว่างประเทศ
  6. Bitcoin และ Cryptocurrencies อื่นๆ

สำหรับการฝากและถอนเงินผ่านธนาคารไทย IC Markets รองรับธนาคารหลักๆ เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย

Copy Trade IC Markets

IC Markets มีบริการ Copy Trade ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคัดลอกกลยุทธ์การเทรดของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้ โดยมีบริการดังนี้:

  1. Myfxbook AutoTrade
    • บริการ Copy Trade ที่เชื่อมต่อกับ MT4 และ MT5
    • สามารถเลือกคัดลอกการเทรดจากเทรดเดอร์ที่มีผลงานดีได้
    • มีการแสดงสถิติและผลการเทรดอย่างละเอียด
  2. ZuluTrade
    • แพลตฟอร์ม Social Trading ที่ให้คุณเลือก Copy เทรดเดอร์ที่มีผลงานดีได้
    • มีระบบจัดอันดับเทรดเดอร์และการวิเคราะห์ความเสี่ยง
  3. Signal Start
    • บริการ Copy Trade ที่รวบรวมสัญญาณการเทรดจากเทรดเดอร์มืออาชีพ
    • สามารถเลือกคัดลอกสัญญาณได้อย่างอัตโนมัติ
  4. cTrader Copy
    • ระบบ Copy Trade ที่มาพร้อมกับแพลตฟอร์ม cTrader
    • สามารถเลือกคัดลอกการเทรดจากเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้โดยตรงในแพลตฟอร์ม

ทั้งนี้ เทรดเดอร์ควรศึกษาและทำความเข้าใจระบบ Copy Trade ให้ดีก่อนใช้งาน เนื่องจากมีทั้งความเสี่ยงและโอกาสในการทำกำไร

ช่องทางการติดต่อ / Support

IC Markets มีทีมสนับสนุนลูกค้าที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ โดยมีช่องทางการติดต่อดังนี้:

IC Markets ติดต่อ
IC Markets ติดต่อ
  1. Live Chat ภาษาไทย:
    • เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันเสาร์ / 07:00 – 22:00 น. (เวลาประเทศไทย)
    • สามารถเข้าถึงได้ผ่านหน้าเว็บไซต์หลักของ IC Markets
  2. Live Chat ภาษาอังกฤษ:
    • ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์
  3. โทรศัพท์:
    • หมายเลขโทรศัพท์ทั่วโลก: +61 (0)2 8014 4280
  4. Email:
  5. สำนักงานในประเทศไทย: IC Markets (Thailand) Co., Ltd. อาคาร Exchange Tower 388 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

นอกจากนี้ IC Markets ยังมีเอกสารให้ความรู้ คำถามที่พบบ่อย และบทความเกี่ยวกับการเทรดที่เป็นภาษาไทยบนเว็บไซต์ของพวกเขาอีกด้วย

สรุป

IC Markets เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่น่าสนใจมากสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย ด้วยจุดเด่นหลายประการ:

  1. ความน่าเชื่อถือสูง: ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำอย่าง ASIC, FSA และ CySEC
  2. เงื่อนไขการเทรดที่ดีเยี่ยม: Spread ต่ำมาก โดยเฉพาะบัญชี Raw Spread ที่เริ่มต้นที่ 0.0 pips
  3. ระบบการซื้อขายที่รวดเร็วและเสถียร: เป็น True ECN Broker ที่ส่งคำสั่งซื้อขายเข้าสู่ตลาดโดยตรง
  4. แพลตฟอร์มที่หลากหลาย: รองรับทั้ง MT4, MT5, cTrader และ WebTrader
  5. การฝาก-ถอนที่สะดวก: รองรับธนาคารไทยและมีความรวดเร็วในการทำรายการ
  6. การสนับสนุนลูกค้าภาษาไทย: มีทีม Support ที่พร้อมให้บริการในช่วงเวลาทำการ

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาบางประการ เช่น:

  • การใช้บริการ VPS ฟรีต้องมีปริมาณการเทรดขั้นต่ำ
  • ไม่เน้นการให้โบนัสหรือโปรโมชั่นมากนัก
  • การถอนเงินอาจใช้เวลา 1-2 วันทำการ ซึ่งอาจไม่เร็วเท่าบางโบรกเกอร์

โดยรวมแล้ว IC Markets เป็นทางเลือกที่โดดเด่นสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ ด้วยความมั่นคง, เงื่อนไขการเทรดที่ดีเยี่ยม และระบบที่มีประสิทธิภาพสูง IC Markets เหมาะสำหรับ:

  1. เทรดเดอร์ที่ต้องการ Spread ต่ำและการส่งคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว
  2. ผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping หรือ High-Frequency Trading
  3. เทรดเดอร์ที่ใช้ Expert Advisors (EAs) และต้องการความเสถียรของระบบ
  4. ผู้ที่ต้องการความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การเทรด

หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex ที่มีความน่าเชื่อถือสูง, มีเงื่อนไขการเทรดที่แข่งขันได้ และมีระบบที่มีประสิทธิภาพ IC Markets ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลและทดลองใช้บัญชีเดโมก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีจริงเพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ